วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2551

อานิสงส์การสร้างหนังสือ

ดังมีใจความว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี
ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้ามีความประสงค์ว่า
จักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรม
ประกาศอานิสงส์สร้าง พระไตรปิฎก
ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัท
พระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถามแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา
จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า

........ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

ดูกรท่านสารีบุตร
ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว
เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติ
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์
ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว
ก็จะได้เป็นพระราชา มีอานุภาพอีก ๙ อสงไขย

ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่างๆ เป็นลำดับไป
คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี
และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย

ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย
เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์
ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง
เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์
สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง
และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม
ดังนี้เป็นต้น

ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา
แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดม
ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา
ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น
สมเด็จพระปุราณโคดมบรมศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า
อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า
จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า
พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต
เรานี้เองดังนี้แลก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนา
ที่พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้



ที่มา : http://www.84000.org/anisong/28.html

ไม่มีความคิดเห็น: